เครือข่ายคอมพิวเตอร์
( Computer Networks )
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ คือกลุ่มของคอมพิวเตอร์
และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ถูกนำมาเชื่อมต่อกันผ่านอุปกรณ์ด้านการสื่อสารอื่นใด
ทำให้ผู้ใช้ในระบบเครือข่าย สามารถติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยน และใช้อุปกรณ์ต่างๆ
ของเครือข่ายร่วมกันได้หรือรวมทั้งระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตระบบโทรศัพท์
ระบบโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม การที่เครือข่ายคอมพิวเตอร์มีบทบาท
และความสำคัญเพิ่มขึ้นเพราะไมโครคอมพิวเตอร์ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายจึงเกิดความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นเข้าด้วยกัน
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของระบบให้สูงขึ้น เพิ่มการใช้งานด้านต่างๆ
และลดต้นทุนระบบโดยรวมตัว
เครือข่ายมีตั้งแต่ขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกันด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพียงสองสามเครื่อง
เพื่อใช้งานในบ้านหรือในบริษัทเล็กๆ ไปจนถึงเครือข่ายระดับโลกที่ครอบคลุมไปเกือบทุกประเทศเครือข่ายสามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมากทั่วโลกเข้าด้วยกันเรียกว่า
เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือ
คอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ก ( Computer Networks )
คือ
ระบบการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์จำนวนตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไป การที่ระบบเครือข่ายมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน
เพราะมีการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างแพร่หลายจึงเกิดความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นถึงกันเพื่อเพิ่มความสามารถของระบบให้สูงขึ้น
และลดต้นทุนของระบบโดยรวมลง
การโอนย้ายข้อมูลระหว่างกันในเครือข่าย
ทำให้ระบบมีขีดความสามารถเพิ่มมากขึ้นการแบ่งการใช้ทรัพยากร เช่น หน่วยประมวลผล
หน่วยความจำ หน่วยจัดเก็บข้อมูล โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ มีราคาแพง
และไม่สามารถจัดหามาให้ทุกคนได้ เช่นใช้งานเอกสารร่วมกัน
ใช้แฟ้มข้อมูลเดียวกันพร้อมกันได้ ใช้เครื่องพิมพ์ใช้เครื่องสแกนเนอร์ ทำให้ลดต้นทุนของระบบลงได้
ประเภทเครือข่ายคอมพิวเตอร์
- เครือข่ายแบบเชื่อต่อในระดับที่เท่าเทียมกัน (Peer to Peer)
- เครือข่ายภายใน (Local Area Network : LAN)
- เครือข่ายแบบ Client/Server
- เครือข่ายแบบ Intranet
- เครือข่ายแบบ Extranets
- เครือข่ายแบบ Intemet
- เครือข่ายระดับเมือง (Wetropolitan Area Networt หรือ
MAN)
- เครือข่ายวงกว้าง (Wide Area Network : WAN)
เครือข่ายแบบเชื่อมต่อในระดับที่เท่าเทียมกัน
(Peer to Peer)
คือระบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกันในสถานะที่เท่าเทียมกันคือทุกเครื่องสามารถจะใช้ไฟล์ในเครื่องอื่นได้และสามารถให้เครื่องอื่นมาใช้ไฟล์ของตนเองได้เช่นกันระบบ Peer To Peer มีการทำงานแบบดิสทริบิวท์ (Distributed
System) โดยจะกระจายทรัพยากรต่างๆ ไปสู่เวิร์กสเตชันอื่นๆ
แต่จะมีปัญหาเรื่องการรักษาความปลอดภัย
เนื่องจากข้อมูลที่เป็นความลับจะถูกส่งออกไปสู่คอมพิวเตอร์อื่นเช่นกันโปรแกรมที่ทำงานแบบ
Peer To Peer คือ Windows for Workgroyp และ Personal Netwar
เครือข่ายภายใน (Local Area Netware
: LAN)
คือ การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ในพื้นที่บริเวณเดียวกันหรือใกล้เคียงกันเข้าเป็นเครือข่าย
เช่นห้องเดียวกัน ในชั้นอาคารเดียวกัน หรือภายในอาคารเดียวกัน
เครือข่ายแบบ Client / Server
ในเครือข่าย Client / Server ทุกคนจะเก็บไฟล์ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่าเซิร์ฟเวอร์
ทุกคนบนเครือข่ายสามารถเข้าถึงไฟล์ที่เก็บไว้บนเซริฟ์เวอร์ เครือข่าย Client / Server
มีความปลอดภัยมากขึ้น ง่ายต่อการจัดการและอื่นๆ
และมีประสิทธิ์ภาพมากกว่าเครือข่ายแบบ peer-to-peer
เครือข่ายแบบ Intranet
เครือข่ายอินทราเน็ตเป็นระบบภายในองค์กรที่นำเทคโนโลยีจากอินเทอร์เน็ตเข้ามาผสมผสานโดยเครือข่ายอินทราเน็ตไม่คำนึงถึงสถานที่ตั้งขององค์กร
สามารถเข้าถึงข้อมูลเฉพาะจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ง่าย แต่ด้วยความเหมาะสมและสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลก็จะส่งผลถึงอันตรายต่อบริษัทหรือองค์กร
โดยการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น
ไวรัสหรือแฮกเกอร์
จึงควรมีการป้องกันด้วยการติดตั้งไฟร์วอลล์จะทำให้อินทราเน็ตมีความปลอดภัยมากขึ้น
เครือข่ายแบบ Extranets
เอ็กซ์ทราเน็ต
คือ เครือข่ายแบบพิเศษซึ่งเชื่อมเครือข่ายภายในองค์กร (Intranet) เข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ภายนอกองค์กร
เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ของสาขา ของผู้จัดจำหน่าย หรือลูกค้า เช่นอีคอมเมิร์ซ
โดยจะอนุญาตและควบคุมให้ใช้งานเฉพาะสมาชิกขององค์กรหรือผู้ที่ได้รับสิทธ์ใช้งานร่วมกันได้
ถือว่าเป็นประโยชน์ของทางธุรกิจเป็นส่วนใหญ่
เอ็กซ์ทราเน็ตจะมีระบบของความปลอดภัยที่ยังไม่เท่าระบบความปลอดภัยของอินเทอร์เน็ต
แต่มีความปลอดภัยสูงกว่าอินทราเน็ต
เครือข่ายแบบ Intemet
อินเทอร์เน็ต
คือ การเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายย่อยๆ แบบต่างๆ
จำนวนมากที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลกเข้าด้วยกัน ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าอินเทอร์เน็ต
คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่ สุดในโลก นั้นคือเป็น “ เครือข่ายของเครือข่าย ” (
A network of networks)
เครือข่ายระดับเมือง (Metro politan
Area Network หรือ MAN)
MAN เป็นเครือข่ายขนาดกลาง ใช้ภายในเมือง หรือจังหวัดที่ใกล้เคียงกัน เช่นระบบเคเบิลทีวีที่มีสมาชิกตามบ้านทั่วไปที่ดูกันอยู่ทุกวันก็จัดเป็นระบบเครือข่ายแบบ
MAN
เครือข่ายวงกว้าง (Wide Area Network
: WAN)
WAN เป็นเครือข่ายใหญ่ ใช้ติดตั้งบริเวณกว้าง
มีสถานีหรือจุดเชื่อมต่อมากมายมากกว่าหนึ่งแสนจุด ใช้สื่อกลางหลายชนิด เช่น
ระบบคลื่นวิทยุ ไมโครเวฟ หรือ ดาวเทียม
ประโยชน์ของเครือข่าย
ด้านการสื่อสาร
-
ส่งข้อมูลโดยตรงระหว่างผู้ใช้แต่ละคนโดยไม่มีความล่าช้า
และผิดพลาด
-
ข้อความสามารถจัดเก็บข้อมูลและป้องกันความเข้าถึงข้อมูล
-
ช่วยในการติดต่อสื่อสารออนไลท์
แบบ Intant messaging (IM) เช่น MSN , Yahoo , AOL , ICQ ช่วยให้การส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที
-
การประชุมผ่านเว็บหรือเรียกว่า
“ การประชุมทางไกล ” (Teleconferencing) ช่วยให้ผู้ใช้ในสถานที่ที่แตกต่างกันเพื่อทำงานร่วมกันในโครงการ
หรือตอบสนองความต้องการที่จะแบ่งปันข้อมูลกับผู้ใช้ทุกที่
ด้านการใช้ทรัพยากรที่ใช้ร่วมกัน
-
ใช้อุปกรณ์เครือข่ายที่ร่วมกัน
เช่น สแกนเนอร์ เครื่องพิมพ์สี เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องโทรสาร เครื่องพิมพ์
(อุปกรณ์ทั้งหมดที่เป็น All-ln-One) ทำให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ที่สนับสนุนด้านเทคนิคหรือการบำรุงรักษาที่จำเป็น
-
ไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ตั้งค่าใช้ร่วมกันโดยผู้ใช้ทั้งหมด
หรือใช้ข้อมมูลร่วมกัน อย่างเช่น ภาพถ่ายและกิจกรรมประจำวัน
-
ผู้อยู่ในระบบสามารถโอนหรือบันทึกไฟล์ไปยังพื้นที่ทั่วไปหรือไปยังเซริฟ์เวอร์ส่วนกลาง
โดยผู้ดูแลระบบเครือข่ายจะมีการตั้งค่าป้องกันความปลอดภัย
เครือข่ายของเครือข่าย
-
การใช้ข้อมูลร่วมกัน
ในการใช้ข้อมูลร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเครือข่ายล้มเหลวด้วยเหตุผลใดก็ตาม
เช่นไฟดับ ไดร์ฟพัง เครือข่ายล้มเหลว ขาดการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และอื่น
จะเป็นปัญหาอย่างมากที่จะต้องเร่งซ่อมแซม และมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
-
มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
ในเครือข่ายจะตรวจสอบให้แน่ใจของผู้ใช้สิทธิ์ที่จะเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์
จะต้องใช่รหัสผ่าน
และต้องมีการตั้งค่ารหัสผ่านบ่อยตามช่วงเวลาที่กำหนดและมีข้อจำกัด
โดยกำหนดรหัสล็อกอิน และรหัสผ่านให้กับผู้ที่ทำงานกับผู้ดูแลระบบเครือข่าย
-
การตั้งค่าไฟร์วอลล์ และ เซิร์ฟเวอร์พร็อกซี
เพื่อป้องกันผู้ใช้ไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึงเครือข่าย
ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการป้องกันผู้อื่นไม่หวังดีเข้าไปทำลายข้อมูลต่างๆ
ในองค์กร
-
การถูกไวรัส
และภัยคุกคาม
จะต้องใช้โปรแกรมรักษาความปลอดภัย
จะต้องมีการตรวจสอบกิจกรรมของพนักงานบนอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันภัยคุกคาม
และจะต้องมีการปรับปรุงระบบปฏิบัติการวินโดวส์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นรุ่นล่าสุด
-
การสูญเสียเอกราชและสิทธิส่วนบุคคล
หมายถึงไม่สามารถที่จะทำงานได้อย่างอิสระจากเซิร์ฟเวอร์ ไม่มีความเป็นส่วนตัวจะถูกตรวจสอบได้ง่ายจากนายจ้างหรือผู้เป็นเจ้าของบริษัท
โดยสามารถบันทึกเก็บประวัติในการเข้าสู่เว็บไซต์ หรือเข้าสู่ระบบเครือข่าย
เครื่องอื่นได้ง่าย
ที่มา : ARIT , ARIP , ส.ค.พ.ท. IC3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น